รีไฟแนนซ์บ้าน วิธีลดภาระผ่อนบ้านง่ายๆ ประหยัดได้แสนต่อปี
บ้านเป็นทรัพย์สินประเภทหนึ่งที่ใช้ระยะเวลาผ่อนนาน และมีภาระค่าใช้จ่ายสูง หากเราผ่อนบ้านมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าแบกรับดอกเบี้ยหนักอยู่ การรีไฟแนนซ์บ้าน อาจเป็นทางออกให้เราได้ มาทำความรู้จักกับรีไฟแนนซ์บ้าน วิธีลดค่าผ่อนบ้านให้น้อยลง และเก็บออมในระยะยาวได้มากขึ้นกัน
รีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) คืออะไร ?
รีไฟแนนซ์บ้าน คือการทำสัญญากู้ซื้อบ้านใหม่กับธนาคารอีกแห่ง เมื่อสิ้นสุดสัญญาเก่าแล้ว โดยทั่วไปมักทำหลังจากผ่านไป 3 ปีตามข้อกำหนดในสัญญา
เหตุผลหลักของการรีไฟแนนซ์ มักเพื่อปรับเปลี่ยนเงื่อนไขสัญญาใหม่ให้ดีขึ้น อย่างเช่น เพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ย หรือปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ เพื่อแบ่งเบาภาระรายเดือน
เช่น คุณกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร ก. ในอัตราดอกเบี้ย 6% แต่เมื่อผ่อนไปได้ 3 ปี พบว่าธนาคาร ข. มีโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้าน ดอกเบี้ยเพียง 3% ซึ่งน่าสนใจมากกว่า จึงตัดสินใจย้ายสินเชื่อบ้านไปยังธนาคารใหม่แทน
ทำไมควรรีไฟแนนซ์บ้าน ?
การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หากคุณต้องการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขสินเชื่อบ้านให้เหมาะสมกับฐานะทางการเงินในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเพื่อลดอัตราดอกเบี้ย ค่าผ่อนชำระ หรือระยะเวลาผ่อน ซึ่งสามารถช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สินได้อย่างมีนัยสำคัญ
ข้อดีและประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์บ้าน
รีไฟแนนซ์บ้านมีประโยชน์มากมาย ทั้งด้านการลดต้นทุนดอกเบี้ยตลอดอายุสินเชื่อ การปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้และความสามารถในการผ่อนชำระ รวมถึงทำให้มีเงินสดหมุนเวียนมากขึ้นในแต่ละเดือน ซึ่งจะช่วยให้บริหารจัดการการเงินส่วนบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
- ลดดอกเบี้ยและค่าผ่อนรายเดือน: หากได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม ก็จะช่วยลดยอดผ่อนรายเดือน และดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาให้น้อยลง
- ผ่อนหนี้เร็วขึ้นด้วยการหักเงินต้นมากขึ้น: ดอกเบี้ยที่ถูกลง ทำให้มีเงินเหลือไปตัดเงินต้นได้เยอะขึ้น ผ่อนหนี้ได้ไวขึ้น
- เลือกระยะเวลาผ่อนใหม่ให้เหมาะสมได้: การRefinance บ้าน จะได้ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ อาจขยายเวลาผ่อนให้นานขึ้น เพื่อลดภาระรายเดือนก็ได้
- รวมภาระหนี้อื่นๆเป็นก้อนเดียว: บางคนอาจมีหนี้กระจัดกระจาย ก็รวมเข้ามาในสินเชื่อบ้านที่รีไฟแนนซ์ ได้ เพื่อจ่ายให้ง่ายขึ้นครับ
ใครเหมาะที่จะขอรีไฟแนนซ์ ?
การรีไฟแนนซ์บ้าน เหมาะกับคนที่ผ่อนบ้านมาสักพักแล้ว เช่นผ่านไป 3 ปี ซึ่งหากมีประวัติการผ่อนที่ดี ไม่เคยขาดชำระ ก็มักจะได้ข้อเสนอที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในยุคที่ดอกเบี้ยปรับลดลงมาก หากปล่อยไว้ก็อาจเสียโอกาสประหยัดดอกเบี้ยไปได้หลายแสนบาท การรีไฟแนนซ์ จะช่วยให้ได้โครงสร้างสินเชื่อที่ดีขึ้นครับ
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน
การขอรีไฟแนนซ์บ้าน แม้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่หากเข้าใจขั้นตอนต่างๆ และเตรียมข้อมูลเอกสารให้พร้อมก็ไม่ใช่เรื่องยาก โดยขั้นตอนหลัก ๆ ก็จะมีดังต่อไปนี้
- ติดต่อขอข้อมูลหนี้คงเหลือ: เริ่มจากสอบถามข้อมูลยอดหนี้ที่ต้องจ่าย ดอกเบี้ย และระยะเวลาคงเหลือ จากธนาคารเก่าที่กู้อยู่
- เปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อรีไฟแนนซ์: ลองสำรวจและเทียบดูข้อเสนอจากธนาคารต่างๆ ว่าที่ไหนให้เงื่อนไขดอกเบี้ย ระยะเวลา ค่าธรรมเนียมแบบไหนบ้าง
- ยื่นคำขอและรอผลอนุมัติ: เมื่อได้ธนาคารที่ใช่แล้ว ให้ยื่นเอกสารสมัครรีไฟแนนซ์บ้าน และรอผลการพิจารณา
- จ่ายชำระหนี้เดิม: หากผ่านอนุมัติ ธนาคารใหม่จะโอนเงินชำระหนี้คงเหลือให้ธนาคารเก่า เพื่อไถ่ถอนจำนองและโอนหลักประกันมาไว้กับสัญญาใหม่
- ไถ่ถอนจำนองและจดจำนองใหม่: ยกเลิกสัญญาจำนองเก่าที่สำนักงานที่ดิน และทำสัญญาจำนองกับธนาคารใหม่แทน ถือเป็นการเปลี่ยนสินเชื่อบ้านสำเร็จ
จุดสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนรีไฟแนนซ์
แม้รีไฟแนนซ์บ้านจะดูน่าสนใจ แต่คุณควรพิจารณาองค์ประกอบต่างๆให้ดีก่อน คือ
- อัตราดอกเบี้ย: ธนาคารส่วนใหญ่มักให้ดอกเบี้ยราคาพิเศษแค่ 3 ปีแรก ดังนั้นต้องคำนวณให้แน่ใจว่าดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดอายุสัญญาใหม่ ยังถูกกว่าสัญญาเดิมอยู่
- วงเงินกู้และระยะเวลาผ่อน: ระวังอย่าหลงกับวงเงินสูงสุดที่ได้รับอนุมัติ หรือระยะเวลาผ่อนที่นานขึ้นมากเกินไป อาจทำให้เสียดอกเบี้ยมากกว่าเดิม
- ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: นอกจากดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าจดจำนอง อากรต่างๆ ซึ่งถือเป็นต้นทุนในการรีไฟแนนซ์ ต้องนำมาคิดด้วย
- ข้อจำกัดและภาระผูกพัน: อย่าลืมอ่านเงื่อนไขต่างๆให้ครบถ้วน บางสัญญามีข้อจำกัดในการชำระหนี้ก่อนกำหนด หรือผูกมัดให้ต้องทำประกันวงเงินสินเชื่อด้วย
เริ่มต้นรีไฟแนนซ์บ้านกับ Easternseabordhome ได้ง่าย ๆ วันนี้
ที่ Easternseabordhome เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ พร้อมให้คำแนะนำฟรี เพื่อคุณจะได้รีไฟแนนซ์ ได้อย่างคุ้มค่า ด้วยโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้าน สุดพิเศษ และเครือข่ายพันธมิตรธนาคารชั้นนำ
เพียงให้ข้อมูลเบื้องต้น ทีมงานจะช่วยคำนวณให้ ว่าคุณสามารถลดดอกเบี้ย ปรับเงื่อนไขสัญญา และประหยัดเงินได้มากแค่ไหน มั่นใจได้ว่าจะได้ข้อเสนอดอกเบี้ยบ้าน ดีที่สุดในตลาดรีไฟแนนซ์บ้าน 2567
หากสนใจรับรีไฟแนนซ์บ้าน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการRefinance ก็สอบถามเราได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความหมายของ รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร ขั้นตอนการดำเนินการ หรือเอกสารที่ต้องเตรียม เรายินดีช่วยเหลือทุกขั้นตอน เพื่อให้คุณประหยัดดอกเบี้ยได้อย่างเต็มที่
ติดต่อทีมงาน Easternseabordhome วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษา และข้อเสนอรีไฟแนนซ์บ้านที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ให้การผ่อนบ้านเป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่ายิ่งขึ้นครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้าน (Home Refinancing FAQ)
รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี 2567 ?
ในปี 2567 ธนาคารที่น่าสนใจในการรีไฟแนนซ์บ้าน ได้แก่
- ธอส. ให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดที่ 2.60% สำหรับโครงการ GHB Precious Plus
- LH Bank ให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกที่ 2.95% สำหรับลูกค้าที่ทำประกัน MRTA/MLTA แบบไม่ฟรีค่าจดจำนอง
- ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเริ่มต้น 3.10% สำหรับลูกค้ารับเงินเดือนผ่าน TTB
ทั้งนี้ ควรพิจารณาเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น วงเงินกู้สูงสุด ระยะเวลาผ่อน และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่อาจมี
รีดอกเบี้ยบ้าน ธอส 2567 ใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
การยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านกับ ธอส. โดยทั่วไปต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- เอกสารรายการยอดหนี้คงเหลือจากธนาคารเดิม
- สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน (ถ้ามี)
- เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนย้อนหลัง หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- สำเนาโฉนดที่ดิน / ห้องชุด และเอกสารสิทธิ์ที่เกี่ยวข้อง
- ใบเสนอราคาค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ ค่าประกันอัคคีภัย
- เอกสารอื่นๆ ตามที่ธนาคารร้องขอเพิ่มเติม
ทั้งนี้เอกสารที่ใช้อาจแตกต่างไปตามรายละเอียดโครงการและสถานะของผู้กู้ แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่โดยตรง
อายุ 70 รีไฟแนนซ์ได้ไหม ?
โดยทั่วไป ธนาคารส่วนใหญ่กำหนดให้ผู้ขอสินเชื่อต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี ณ วันที่สัญญาสินเชื่อครบกำหนด อย่างไรก็ตามหลายธนาคารพิจารณาเป็นรายกรณีไป หากผู้สูงอายุยังมีรายได้ที่มั่นคง อาจอนุมัติวงเงินบางส่วน หรืออาจต้องมีผู้ค้ำประกันเพิ่มเติม
สำหรับอายุ 70 ปี อาจเป็นไปได้ยากในการรีไฟแนนซ์ แต่หากมีเหตุผลจำเป็น เช่น ต้องการปรับลดภาระดอกเบี้ย ก็ยังสามารถหารือกับธนาคารถึงทางเลือกอื่นได้ เช่น การขอลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารเดิม (Retention)
รีไฟแนนซ์ SCB ใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
การรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ต้องเตรียมเอกสารหลักๆ ดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- ทะเบียนสมรส หรือ ใบหย่า (ถ้ามี)
- เอกสารรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนย้อนหลัง, หนังสือรับรองรายได้, ใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
- Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของบัญชีที่รับเงินเดือน/รายได้ประจำ
- เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน
- เอกสารสินเชื่อบ้านฉบับปัจจุบัน เช่น สัญญากู้ สำเนาสมุดบัญชีเงินกู้
- หนังสือยินยอมให้หักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (Direct debit)
ข้อมูลและรายการเอกสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ธนาคาร
